วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ประวัติ



จัดทำโดย






นางสาวฮายาตี หะยีมามะ 

รหัสนักศึกษา 5710013805071

สาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ 2-1/57

วิดีโอการทำข้าวเกรียบ



วิดีโอแนะนำการทำข้าวเกรียบปลาทู





(ขอขอบคุณวิดีโอจาก  youtube)







วิดีโอแนะนำการทำข้าวเกรียบฟักทอง







(ขอขอบคุณวิดีโอจาก  youtube)








วิดีโอแนะนำการทำข้าวเกรียบกุ้ง








(ขอขอบคุณวิดีโอจาก  youtube)



วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข้าวเกรียบปลาทู


ข้าวเกรียบปลาทู




ส่วนผสม

1.แป้งมัน 1 กิโลกรัม

2.เนื้อปลาทูสดหรือปลาหลังเขียว 6 ขีด

3.เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ

4.พริกไทยป่น 3 ช้อนโต๊ะ

5.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

6.กระเทียมโขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำ

1.ชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ นำไปลวกน้ำร้อนพอสุกๆ ดิบๆ แล้วนำมาสับให้

ละเอียดถ้าเป็นปลาที่มีกลิ่นคาวมาก ให้ล้างน้ำเกลือ 4% (น้ำ 1 ลิตร เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ) ก่อนที่จะนำไปสับ

ให้ละเอียด

2.นำแป้งมัน เกลือป่น พริกไทยป่น น้ำตาลทรายมาผสมให้เข้ากันดี

3.นำแป้งที่ผสมแล้ว 1 ถ้วยตวง นวดกับน้ำเดือดก่อนเพื่อเป็นเชื้อแล้วจึงค่อยเติมเนื้อปลา กระเทียมโขลก

ละเอียดและแป้งนวดจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันจนกระทั่งหมดส่วนผสมนานประมาณ20นาที

4.นำแป้งและปลาที่ผสมเครื่องเทศเรียบร้อยแล้วมาปั้นเป็นแท่งกลมยาว แล้วใส่ภาชนะที่กรุด้วยใบตอง

 นึ่งประมาณ 1 - 1 ½ ชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของท่อนข้าวเกรียบ

5.เมื่อนึ่งเสร็จแล้ว ตั้งทิ้งไว้ค้างคืนเพื่อให้ผิวนอกแข็ง สะดวกในการหั่น

6.หั่นข้าวเกรียบที่นึ่งแล้วเป็นชิ้นบาง ๆ ด้วยมีด แล้วตากบนแผงตากข้าวเกรียบประมาณ 1-2 แดด เมื่อ

แห้งสนิทดีแล้ว ก็พร้อมบรรจุถุงขาย


การจับประเด็น

  1.ข้าวเกรียบกุ้ง

ใช้ส่วนผสมเป็นแป้งสาลีซึ่งแตกต่างจากการทำข้าวเกรียบชนิดอื่น

2.ข้าวเกรียบฟักทอง

ต้องพักแท่งข้าวเกรียบไว้หนึ่งคืนก่อนหั่น มิฉะนั้นจะเหนียวเหนอะหนะ หั่นยากเวลาจะรับ

ประทาน ทอดในน้ำมันร้อน ไฟอ่อน โดยใช้น้ำมันมากในการทอด พอข้าว เกรียบพองกรอบ สี

นวล ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันน้ำมันที่เหมาะกับอาหารทอดคือน้ำมันปาล์ม

3.ข้าวเกรียบปลาทู

ใช้เนื้อปลาสดอัตราส่วนผสมคงที่แน่นอนมีมาตรฐานเก็บข้าวเกรียบในตู้แช่เพื่อให้แข็งง่ายต่อ

การตัดทอดในนำมันที่ร้อนจะทำให้ไม่อมน้ำมัน


ขั้นตอนการสังเคราะห์ (สรุปองค์ความรู้)

1.การเตรียมวัตถุดิบ

                -แบบที่1 วิธีทำข้าวเกรียบกุ้ง

   นำกุ้งไปล้างน้ำ ปอกเปลือก ผ่าหลังชักไส้ดำออก แล้วใส่ตะแกรงผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ

                -แบบที่2วิธีทำข้าวเกรียบฟักทอง

  นึ่งฟักทองให้สุก ยีฟักทองให้ละเอียดเนื้อเนียน

                -แบบที่3วิธีการทำข้าวเกรียบปลาทู

 ชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ นำไปลวกน้ำร้อนพอสุกๆ ดิบๆ แล้วนำมาสับให้ละเอียดถ้าเป็นปลาที่

มีกลิ่นคาวมาก ให้ล้างน้ำเกลือ4% (น้ำ 1 ลิตร เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ) ก่อนที่จะนำไปสับให้ละเอียด

2.การปรุงรส

                -แบบที่1 วิธีทำข้าวเกรียบกุ้ง

กระเทียม พริกไทย ใส่ครกลงโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำกุ้งใส่แล้วโขลกต่อไปจนเหนียว เติม

เกลือป่านลงไปพอเค็ม แล้วโขลกต่อสักครู่ ตักขึ้นพักไว้

                -แบบที่2วิธีทำข้าวเกรียบฟักทอง

 ผสมแป้งมันสำปะหลัง ฟักทองบด กระเทียม พริกไทย เกลือ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน นวด 

 ส่วนผสมให้เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำเดือดนวดไปเรื่อยๆ จนเข้ากันและปั้นได้

                -แบบที่3วิธีการทำข้าวเกรียบปลาทู


นำแป้งที่ผสมแล้ว 1 ถ้วยตวง นวดกับน้ำเดือดก่อนเพื่อเป็นเชื้อแล้วจึงค่อยเติมเนื้อปลา

 กระเทียมโขลกละเอียดและแป้งนวดจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันจนกระทั่งหมดส่วนผสมนานประมาณ20นาที

3.การนวด

                -แบบที่1 วิธีทำข้าวเกรียบกุ้ง

  นำแป้งมัน (หรือแป้งสิงคโปร์) และ แป้งข้าวเจ้าผสมรวมกัน ใส่แร่งกรองให้หมดผง นำแป้ง

ใส่ลงในชามกุ้งที่โขลกไว้ทีล่ะน้อย เติมน้ำลงไปนวดจนแป้งเหนียว และทำขั้นตอนนี้ต่อจนกว่าแป้งจะหมด

                -แบบที่2วิธีทำข้าวเกรียบฟักทอง

  ผสมแป้งมันสำปะหลัง ฟักทองบด กระเทียม พริกไทย เกลือ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน นวด ส่วนผสมให้

เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำเดือดนวดไปเรื่อยๆ จนเข้ากันและปั้นได้

                -แบบที่3วิธีการทำข้าวเกรียบปลาทู


   นำแป้งที่ผสมแล้ว 1 ถ้วยตวง นวดกับน้ำเดือดก่อนเพื่อเป็นเชื้อแล้วจึงค่อยเติมเนื้อปลา

 กระเทียมโขลกละเอียดและแป้งนวดจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันจนกระทั่งหมดส่วนผสมนาน

ประมาณ20นาที


4.การปั้น

                -แบบที่1 วิธีทำข้าวเกรียบกุ้ง

  ปั้นแป้งเป็นท่อนกลมๆ คลึงออกให้เป็นแท่งยาวๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว (แต่ไม่ต้องยาวมาก

นัก เพราะจะใส่รังถังนึ่งไม่สะดวก)

                -แบบที่2วิธีทำข้าวเกรียบฟักทอง

 นำส่วนผสมที่เข้ากันมาปั้นเป็นแท่งยาว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว

                -แบบที่3วิธีการทำข้าวเกรียบปลาทู


 นำแป้งและปลาที่ผสมเครื่องเทศเรียบร้อยแล้วมาปั้นเป็นแท่งกลมยาว แล้วใส่ภาชนะที่กรุด้วยใบตอง

 นึ่งประมาณ 1 - 1½ชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของท่อนข้าวเกรียบ

   

ข้าวเกรียบฝักทอง




ข้าวเกรียบฟักทอง



ส่วนผสมข้าวเกรียบฟักทอง

ฟักทองบด 200 กรัม

 แป้งมันสำปะหลัง 250 กรัม

เกลือป่น 2 ช้อนชา

กระเทียมโขลกละเอียด 2 ช้อนชา

พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

น้ำตาลทรราย1 ช้อนโต๊ะ


น้ำเดือด


วิธีทำข้าวเกรียบฟักทอง

1.นึ่งฟักทองให้สุก ยีฟักทองให้ละเอียดเนื้อเนียน

2.ผสมแป้งมันสำปะหลัง ฟักทองบด กระเทียม พริกไทย เกลือ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน นวด ส่วนผสม

ให้เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำเดือดนวดไปเรื่อยๆ จนเข้ากันและปั้นได้

3.นำส่วนผสมที่เข้ากันมาปั้นเป็นแท่งยาว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว

4.เรียงแท่งข้าวเกรียบลงในรังถึง ที่ทาน้ำมันพืชไว้ อย่าวางชิดกันมากเพื่อให้ไอน้ำขึ้นมาได้ นึ่งในน้ำ

เดือดไฟแกรง 40 นาที ทิ้งไว้ให้เย็นเก็บใส่ถุึงพลาสติก พักไว้ 1 คืน

5.หั่นเป็นแว่นบางๆ ตากแดดจนแห้งสนิท เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด





* หมายเหตุ :

ต้องพักแท่งข้าวเกรียบไว้หนึ่งคืนก่อนหั่น มิฉะนั้นจะเหนียวเหนอะหนะ หั่นยาก

เวลาจะรับประทาน ทอดในน้ำมันร้อน ไฟอ่อน โดยใช้น้ำมันมากในการทอด พอข้าว เกรียบพองกรอบ 

สีนวล ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันน้ำมันที่เหมาะกับอาหารทอดคือน้ำมันปาล์ม




ข้าวเกรียบกุ้ง



                                ข้าวเกรียบกุ้ง


ส่วนผสม

กุ้งสด 1/2 ครึ่งกิโลฯ

แป้งมัน (หรือแป้งสิงคโปร์) 1/2 ครึ่งกิโลฯ

แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย

กระเทียม 15 กลีบ

พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1 1/2 หนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง


น้ำมันพืช (สำหรับทอด)




วิธีทำข้าวเกรียบกุ้ง

1. นำกุ้งไปล้างน้ำ ปอกเปลือก ผ่าหลังชักไส้ดำออก แล้วใส่ตะแกรงผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ

2. กระเทียม พริกไทย ใส่ครกลงโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำกุ้งใส่แล้วโขลกต่อไปจนเหนียว เติมเกลือ

ป่านลงไปพอเค็ม แล้วโขลกต่อสักครู่ ตักขึ้นพักไว้

3. นำแป้งมัน (หรือแป้งสิงคโปร์) และ แป้งข้าวเจ้าผสมรวมกัน ใส่แร่งกรองให้หมดผง นำแป้งใส่ลงใน

ชามกุ้งที่โขลกไว้ทีล่ะน้อย เติมน้ำลงไปนวดจนแป้งเหนียว และทำขั้นตอนนี้ต่อจนกว่าแป้งจะหมด

4. เมื่อได้แป้งครบแล้ว ให้ลองปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ลวกในน้ำร้อนให้สุกแล้วชิมรสดู ถ้ายังอ่อนเค็ม ให้เติม

เกลือแล้วนวดใหม่จนได้รสที่ต้องการ

5. ปั้นแป้งเป็นท่อนกลมๆ คลึงออกให้เป็นแท่งยาวๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว (แต่ไม่ต้องยาวมาก

นัก เพราะจะใส่รังถึงนึ่งไม่สะดวก)

6. จัดเรียงท่อนแป้งใส่รังถึง แล้วยกขึ้นตั้งไฟนึ่ง ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อสุกดีแล้ว หยิบขึ้นแผ่ทิ้งไว้ 1 คืน

 จากนั้นหั่นให้เป็นแว่นบางๆและนำไปตากแดดให้แห้ง อีก 1 วัน

7. เวลารับประทาน ใส่น้ำมันตั้งไฟ นำลงทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ยกขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่

กับน้ำพริกเผา